แนวทางการฉีดวัคซีนโควิด-19
ในผู้ป่วยที่ได้รับหรือรอรับการปลูกถ่ายอวัยวะ
ทำไมผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะถึงควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และควรได้รับเมื่อไหร่ดี?
ผู้ป่วยภูมิต้านทานต่ำกว่าคนทั่วไปเนื่องจากได้รับยากดภูมิคุ้มกันอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการปฏิเสธอวัยวะ จึงมีโอกาสติดเชื้อและรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้สูงกว่าคนทั่วไป การได้รับวัคซีนช่วยป้องกันหรือลดความรุนแรงของการติดเชื้อได้อย่างมาก ในขณะที่พบผลข้างเคียงไม่ได้แตกต่างไปจากประชากรทั่วไป และควรได้รับวัคซีนให้ เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โดยยังคงรับประทานยาตามปกติ ไม่ต้องหยุดยากดภูมิคุ้มกัน ไม่ว่าก่อนหรือหลังฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เลย ยกเว้น หลังการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะในช่วง 1 เดือนแรก หรือหลังการรักษาภาวะปฏิเสธอวัยวะโดยให้ปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลก่อน
ผู้รอการปลูกถ่ายอวัยวะควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 หรือไม่?
ควรฉีดอย่างยิ่ง เนื่องจากผู้รอการปลูกถ่ายอวัยวะโดยปกติจะมีโรคประจำตัวอยู่ที่เพิ่มความรุนแรงของการติดเชื้อโควิด-19 เช่น โรคตเรื้อรังระยะสุดท้าย โรคตับแข็ง โรคหัวใจล้มเหลว โรคทางเดินหายใจ และควรฉีดก่อนเข้ารับการปลูกถ่ายอย่างน้อย 1 เดือน
ถ้ารับการฉีดวัคซีนแล้วยังต้องป้องกันตนเองหรือไม่?
จำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อดังเดิม เช่น สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่างทางกายภาพและงดการพบปะกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากการตอบสนองของภูมิคุ้มกันต่อวัคซีนในผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะหรือผู้ที่มีโรคประจำตัวนั้น มีโอกาสต่ำกว่าคนปกติ อันเป็นผลจากยากดภูมิคุ้มกันหรือความเจ็บป่วย ดังนั้นหลังฉีดวัคซีนจึงยังมีโอกาสติดเชื้อได้ แต่ความรุนแรงของโรคจะลดลงอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน
แล้วถ้าเคยติดเชื้อโควิด-19 แล้ว ยังต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 หรือไม่?
เนื่องจากภูมิคุ้มกันที่พบจากการติดเชื้อไม่สูงพอที่จะป้องกันการติดเชื้อครั้งต่อไป และไม่ได้อยู่ยาวนาน ผู้ป่วยทุกรายอาจจำเป็นต้องได้รับวัคซีนทุกปีเหมือนโรคไข้หวัดใหญ่
สำหรับผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะหรือรอการปลูกถ่ายสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตัวไหนได้บ้าง?
‘ฉีดได้ทุกแบรนด์’ ไม่ว่าจะเป็น Sinovac, AstraZeneca, Pfizer,Johnson & Johnson, Moderna, Covaxin, Sinopharm, Novavax หรือ Sputnik V
- อ้างอิงข้อมูลจากสมาคมปลูกถ่ายอวัยวะแห่งประเทศไทย