ไขมันในเลือดสูง…เสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด

ไขมันในเลือดสูง เสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • รับประทานอาหาร : การรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์สูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมันเครื่องในสัตว์ เนยเทียม ของทอด อาหารฟาสต์ฟู้ด และขนมหวาน
  • ขาดการออกกำลังกาย : การออกกำลังกายช่วยเพิ่มไขมันชนิดดี (HDL) และลดไขมันชนิดไม่ดี 
  • ภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน : การมีดัชนีมวลกาย (BMI) สูง โดยเฉพาะไขมันสะสมรอบเอว เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ
  • สูบบุหรี่ : ทำให้ระดับไขมันชนิดดี (HDL) ลดลง
  • ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป : เพิ่มระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด
  • ภาวะเครียด : ส่งผลต่อการเผาผลาญและฮอร์โมน
  • พันธุกรรม : มีประวัติครอบครัวเป็นไขมันในเลือดสูง ทำให้ร่างกายกำจัดไขมัน LDL ได้ยากขึ้น
  • อายุที่มากขึ้น : เมื่ออายุมากขึ้น ตับจะกำจัดไขมัน LDL ได้น้อยลง
  • เพศ : ผู้ชายมีความเสี่ยงมากกว่าผู้หญิงในวัยเดียวกันแต่เมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
  • โรคประจำตัว : เช่น โรคเบาหวาน, โรคไตเรื้อรัง, ภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ (Hypothyroidism)
  • ผลข้างเคียงจากยา : ยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ สเตียรอยด์ ยาคุมกำเนิด อาจทำให้ไขมันในเลือดสูงขึ้นได้
ไขมันในเลือดสูง เสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด

1. คอเลสเตอรอล (Cholesterol) โดยคอเลสเตอรอล แบ่งเป็น

  • ชนิดความหนาแน่นต่ำ (LDL) หรือไขมันชนิดที่ไม่ดี เป็นชนิดอันตรายเพราะเป็นคอเลสเตอรอลที่ไปสะสมในผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดแดงตีบและแข็ง เพิ่มความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองตีบ โดยในผู้ใหญ่ ควรมีค่า LDL ไม่เกิน 130 mg/dL แต่หากมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ร่วมด้วย ระดับ LDL ควรมีระดับต่ำลงกว่า100 ลงมา ตามปัจจัยเสี่ยง (ยิ่งต่ำยิ่งดีสำหรับผู้มีความเสี่ยงสูง)
  • ชนิดความหนาแน่นสูง (HDL) หรือไขมันชนิดที่ดี ช่วยนำคอเลสเตอรอลส่วนเกินออกจากหลอดเลือดและส่งไปทำลายที่ตับ ทำให้ลดความเสี่ยงโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตัน HDL จะสูงได้จากการออกกำลังกาย ระดับปกติในเลือดผู้ชายมากกว่า 40 mg/dL ผู้หญิงมากกว่า 50 mg/dL

2. ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride)  เป็นไขมันชนิดหนึ่ง สร้างขึ้นเองในร่างกายจากน้ำตาลและแป้งหรือ จากอาหารที่รับประทานเข้าไป ซึ่งร่างกายเก็บสะสมไว้เป็นพลังงาน แต่หากมีปริมาณสูงเกินไป จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ ค่าที่เหมาะสมควรต่ำกว่า 150 mg/dL

การสะสมคราบไขมันที่เกาะผนังหลอดเลือดแดง ทำให้เกิดหลอดเลือดแดงตีบหรืออุดตัน (Atherosclerosis) ซึ่งสามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนและโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง (อัมพฤกษ์ อัมพาต) โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน ภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน และอาจนำไปสู่โรคไขมันพอกตับ ตับอ่อนอักเสบ หรือแม้กระทั่งเสียชีวิตได้

ไขมันในเลือดสูง เสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด

ปัจจุบันการรักษาไขมันในเลือดสูง ไม่ได้เพื่อรักษาตัวเลขค่าระดับไขมัน แต่เป็นการรักษาเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ โดยการรักษามี 2 แนวทางหลักที่ต้องทำควบคู่กันเสมอ คือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและรักษาด้วยยา โดยหากระดับไขมันไม่สูงมาก แพทย์อาจแนะนำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแต่หากไขมันในเลือดสูงมาก หรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ได้ผล แพทย์จะพิจารณาให้ยาลดไขมันเพื่อช่วยลดระดับไขมันในเลือด

  • ควบคุมการรับประทานอาหาร โดยหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ติดมัน หอยนางรม ปลาหมึก กุ้ง เป็นต้น
  • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันชนิดกรดไขมันอิ่มตัวสูง (Saturated Fatty Acid) เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว กะทิ ฯลฯ
  • ใช้วิธีการนึ่ง ต้ม อบ ในการทำอาหาร แทนการทอด หรือผัด
  • รับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น
  • หลีกเลี่ยงสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอและต่อเนื่อง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง
  • ลดน้ำหนักตัวหรือควบคุมน้ำหนักตัว
  • หลีกเลี่ยงน้ำตาล : งดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม ชานมไข่มุก
ไขมันในเลือดสูง เสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ยาลดไขมัน เมื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ได้ผล หรือระดับไขมันในเลือดไม่ได้ตามเป้าหมาย หรือในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงสูง แพทย์จะพิจารณาใช้ยาในกลุ่มต่างๆ เหล่านี้
    • ยากลุ่มสแตติน (Statins) ช่วยขัดขวางการผลิตคอเลสเตอรอลในตับ
    • ยากลุ่มไฟเบรต (Fibrates) ช่วยลดไตรกลีเซอไรด์และไขมันไม่ดี
    • ยาอีเซทิไมบ์ (Ezetimibe) ขัดขวางการดูดซึมคอเลสเตอรอลในลำไส้
    • ยาต้าน PCSK9 (PCSK9 inhibitor) เป็นยาฉีด มักใช้ในผู้ป่วยที่มีระดับคอเลสเตอรอลสูงมากจากพันธุกรรม หรือใช้ยาอื่นแล้ว ไม่ได้ผล
  • อาหารเสริมโอเมก้า 3 ช่วยลดไตรกลีเซอไรด์

Share
ผู้ที่เขียนบทความ
DR.WARANGKANA IMRUETAIJAROENCHOKE
DR.WARANGKANA IMRUETAIJAROENCHOKE
Internist, Department of Medicine, Thainakarin Hospital
ข้อมูลแพทย์