การกรนเป็นภาวะที่มีเสียงหายใจดังเกิดขึ้นในขณะหลับ พบได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เนื่องจากมีการตีบแคบของช่องทางเดินหายใจตั้งแต่จมูกจนถึงช่องคอหรือส่วนใดส่วนหนึ่ง ทำให้อากาศผ่านเข้าออกไม่สะดวก เกิดการสั่นสะเทือนของเพดานอ่อนลิ้นไก่ หรือโคนลิ้นขณะนอนหงาย เป็นเสียงกรนที่มีลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล และมีความรุนแรงแตกต่างกัน จะพบในผู้ป่วยที่มีปัญหาต่อมทอนซิลโต โรคอ้วน โรคภูมิแพ้
ผลของการหยุดหายใจขณะหลับ
การหยุดหายใจขณะหลับนานเกินกว่า 10 วินาที หรือมีการหยุดหายใจมากกว่า 5 ครั้งต่อการนอนหลับหนึ่งชั่วโมงถือว่าผิดปกติ ร่างกายจะมีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำกว่าร้อยละ 90 น้ำตาลในเลือดจะสูงขึ้น หัวใจและหลอดเลือดทำงานมากขึ้น ง่วงนอนมากผิดปกติ ขาดสมาธิเวลาทำงาน นอกจากนี้ผู้ป่วยยังมีโอกาสเกิดโรคหัวใจ โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต อุบัติเหตุขณะทำงาน อารมณ์หงุดหงิด ไม่สดชื่นแจ่มใส ปวดศีรษะแม้ว่าจะนอนหลับเพียงพอ รวมทั้งสมรรถภาพทางเพศลดลง เด็กที่มีภาวะพร่องออกซิเจนขณะหลับ อาจมีสติปัญญาถดถอย สมาธิสั้น หัวใจโต หรือเสียชีวิตกะทันหันได้ถ้าเป็นมาก
ปัจจัยเสริมทำให้เกิดการนอนกรน
- เพศ : เพศชายจะมีความเสี่ยงมากกว่าเพศหญิงเมื่ออายุมากขึ้น เพราะฮอร์โมนชายจะส่งผลให้เนื้อเยื่อบริเวณคอหนามากกว่าผู้หญิง
- โรคอ้วน : จำนวน 2 ใน 3 ของผู้ป่วยนอนกรนจะมีโรคอ้วนและมีน้ำหนักมากกว่าร้อยละ 20
- ความผิดปกติของกระดูกใบหน้า หน้าแบน คางสั้น พบว่ามีทางเดินหายใจแคบกว่าคนปติ
- การดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ทางเดินหายใจแคบลง และเกิดการหยุดหายใจได้ง่ายเนื่องจากแอลกอฮอล์ลดการทำงานของกล้ามเนื้อทางเดินหายใจ
- โรคต่อมไร้ท่อ : พบว่าผู้ที่มีระดับไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ อาจเกิดทางเดินหายใจอุดกั้นได้ง่าย
- เนื้องอกหรือเนื้อเยื่อส่วนเกินในทางเดินหายใจ ได้แก่ ทอนซิลหรือต่อมอดีนอยด์โต ผนังช่องคอหนา ลิ้นโต ริดสีดวงจมูก ผนังกั้นจมูกคด เนื้องอกของช่องจมูก
การตรวจการนอนหลับ (PSG: Polysomnography)
ตรวจด้วยเครื่องมือเฉพาะที่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพของการนอนว่าเป็นอย่างไร ซึ่งผู้ป่วยไม่สามารถบอกได้ด้วยตนเอง การตรวจนี้ประกอบด้วย
- การวัดระดับความลึกของการนอนหลับจากคลื่นสมอง
- การทำงานและเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อทรวงอกและหน้าท้อง
- ระดับออกซิเจนในเลือดในแต่ละช่วงของการนอนหลับ
- การเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจขณะหลับ
- จำนวนครั้งของการหยุดหายใจ
ในการตรวจแต่ละครั้ง ผู้ป่วยจะเข้านอนในโรงพยาบาล 1 คืน (ใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง) เพื่อสังเกตพฤติกรรมการนอนโดยจะได้รับการติดเครื่องตรวจวัดสภาพการนอนทั้งคืน (Polysomnography) ซึ่งเป็นมาตรฐานในการวินิจฉัย สำหรับเด็กโตและผู้ใหญ่การตรวจจะสามารถช่วยในการเลือกใช้ความดันที่เหมาะสมในเครื่องอัดอากาศแรงดันบวกชนิดต่อเนื่อง (CPAP) สามารถลดภาวะหยุดหายใจได้ผลดีและลดภาวะแทรกซ้อนจากโรคลงได้
แนวทางการรักษาภาวะกรน
- ลดและควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
- การนอนท่าตะแคงจะช่วยให้ลิ้นไม่ตกไปอุดช่องคอ
- ใช้เครื่องอัดอากาศแรงดันบวกชนิดต่อเนื่อง หรือ CPAP (Continuous Positive Airway Pressure) ช่วยหายใจขณะหลับ แรงดันอากาศจากเครื่องช่วยเปิดทางเดินหายใจให้กว้างขึ้น ทำให้หายใจได้เพียงพอและใช้ได้ผลดี แต่บางรายไม่คุ้นเคยกับการใช้เครื่องขณะหลับ
- ใส่อุปกรณ์ทางทันตกรรมในช่องปากขณะหลับ
- ผ่าตัดเนื้อเยื่อในช่องคอ เพื่อให้เกิดการกระชับและตึงตัวขึ้นด้วยวิทยุความถี่สูง (Radio Frequency)
- การผ่าตัดเพดานอ่อน เพื่อขยายช่องทางเดินหายใจบริเวณคอหอย
- การผ่าตัดเลื่อนขากรรไกรในรายที่มีโครงสร้างกระดูกใบหน้าผิดปกติ
สัญญาณเตือนแบบไหนเสี่ยง ‘หยุดหายใจขณะหลับ’
- นอนกรนเสียงดัง ตื่นบ่อยขณะหลับ
- มีอาการง่วงทั้งที่นอนมาก
- มึนงง ปวดศีรษะ และไม่สดชื่นเมื่อตื่นนอน
- ขี้ลืม ไม่มีสมาธิในการทำงาน ความจำไม่ดี
- ง่วงนอนขณะขับรถ และในตอนกลางวัน
- อารมณ์เสีย หงุดหงิดง่าย
แบบทดสอบว่าคุณมีปัญหาโรคนอนกรนหรือไม่?
ในสถานการณ์ต่อไปนี้ ท่านมักจะเผลอหลับหรืองีบหลับไปมากน้อยแค่ไหน (ตอบทุกข้อ)
แบบทดสอบว่าคุณมีปัญหาโรคนอนกรน
|
ไม่เคย
|
นอน
|
ปานกลาง
|
มาก
|
ขณะดูทีวี
|
||||
ขณะอ่านหนังสือ
|
||||
นั่งเฉยๆ นอกบ้านในที่สาธารณะ
|
||||
นั่งพูดคุยกับคนอื่น
|
||||
หลับในรถขณะที่รถติดไม่กี่นาที
|
||||
นั่งเป็นผู้โดยสารนานเป็นชั่วโมง
|
||||
นั่งเงียบๆ หลังทานอาหารเที่ยง
|
||||
นั่งเอนหลังเพื่อพักในช่วงบ่าย
|
การแปลผล : ไม่เคย = 0 คะแนน / น้อย = 1 คะแนน / ปานกลาง = 2 คะแนน / มาก = 3 คะแนน
การแปลผล : ถ้ารวมได้น้อยกว่า 7 คะแนน แสดงว่าปกติ
ถ้ารวมได้มากกว่า 9 คะแนน แสดงว่า ท่านง่วงเหงาหาวนอนมากผิดปกติอาจจะเกิดจากโรคกรนได้