อาการปวดศีรษะ (Headache) ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ยังสามารถพบได้ในเด็กตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเฉพาะในวัยเรียนจนถึงเด็กโตเด็กที่มีอาการปวดศีรษะเรื้อรังอาจส่งผลต่อการเรียน การนอนหลับ และคุณภาพชีวิตโดยรวมของเด็ก
ประเภทของอาการปวดศีรษะในเด็ก
อาการปวดศีรษะในเด็กแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก:
1.Primary headache (ปวดศีรษะชนิดไม่มีสาเหตุชัดเจน): ได้แก่
- ไมเกรน (Migraine): มักปวดตุ้บๆ ข้างเดียวหรือสองข้าง อาจมีอาเจียน เวียนศีรษะ หรือไวต่อแสง/เสียงร่วมด้วย
- ปวดศีรษะจากความตึงเครียด (Tension-type headache): ปวดแบบกดแน่นหรือรัดรอบศีรษะ ไม่รุนแรงมาก แต่ต่อเนื่อง
- Cluster headache: พบได้น้อยในเด็ก มักปวดรุนแรงเฉพาะที่รอบเบ้าตา อาจจะมีตาแดง น้ำตาไหลร่วมด้วย
2.Secondary headache (ปวดศีรษะจากสาเหตุอื่น):
เช่น การติดเชื้อทางเดินหายใจ ภาวะไซนัสอักเสบ ภาวะความดันในสมองสูง เลือดออกในสมอง เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เนื้องอกในสมอง
อาการที่ควรระวัง
หากเด็กมีอาการเหล่านี้ร่วมกับการปวดศีรษะ ควรพบกุมารแพทย์ทันที ได้แก่
- ปวดศีรษะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
- ปวดศีรษะมาก เป็นฉับพลันทันที
- ปวดศีรษะร่วมกับแขนขาอ่อนแรง เดินเซ ซึม ชัก ตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อนอาเจียนพุ่ง
- ปวดศีรษะร่วมกับอาเจียนพุ่ง
- แขนขาอ่อนแรง เดินเซ ซึม ชัก ตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน
- มีไข้สูง คอแข็งปวดหัวมากจนต้องตื่นนอนตอนกลางคืน (night awakening pain)มีไข้สูง คอแข็ง
- ปวดศีรษะสัมพันธ์ไอ เบ่ง จาม
ขั้นตอนการวินิจฉัย
แพทย์จะสอบถามประวัติอาการโดยละเอียด ตรวจร่างกาย และในบางรายอาจพิจารณาตรวจเพิ่มเติม เช่น
- ตรวจสายตา
- การถ่ายภาพสมองด้วย CT หรือ MRI เมื่อแพทย์สงสัยว่ามีพยาธิสภาพในสมอง
- การเจาะน้ำไขสันหลัง หากสงสัยการติดเชื้อ หรือ ความดันในสมองสูงแบบไม่ทราบสาเหตุ (Idiopathic Intracranial Hypertension)
วิธีการรักษาโดยแพทย์จะทำการวินิจฉัย
1.ปวดศีรษะแบบปฐมภูมิ
แนะนำการปฏิบัติตัว ได้แก่ นอนหลับให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้มาก หลีกเลี่ยงความเครียด ใช้ยาแก้ปวด พิจารณาใช้ยาป้องกันการปวหัวเป็นรายบุคคลหากมีข้อบ่งชี้ในการใช้
2.ปวดศีรษะแบบทุติยภูมิ
แพทย์จะรักษาตามสาเหตุของโรคนั้นๆ