Shopping Cart

No products in the cart.

โรคงูสวัด (Herpes Zoster) เกิดจากอะไร อันตรายแค่ไหน?

‘งูสวัด’ เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อ Herpes Varicella Zoster ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับเชื้อที่ทำให้เกิดไข้อีสุกอีใส ผู้ที่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อนจะยังคงมีเชื้อไวรัสหลงเหลืออยู่ในปมประสาทสันหลังเมื่อถูกกระตุ้นจะสามารถทำให้เกิดเป็นโรคงูสวัดได้ บริเวณที่พบบ่อย คือ บริเวณเอว คอ ก้นกบ ตา ใบหน้า ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้สูงอายุ หรือจากโรค เช่น โรคเอดส์ ผู้ที่เปลี่ยนถ่ายอวัยวะ การรักประทานยาสเตียรอยด์ ยารักษาโรคมะเร็ง จะมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้ ผู้สูงอายุมักมีอาการรุนแรงกว่าผู้ที่อยู่ในวัยเด็ก

อาการเตือน โรคงูสวัด

  • ปวดศีรษะ
  • ปวดกล้ามเนื้อ
  • ปวดแสบ ปวดร้อน
  • มีผื่นตุ่มน้ำตามเส้นประสาทข้างใดข้างหนึ่ง

ภาวะแทรกซ้อน

  • หากมีอาการปวดรุนแรง อาจพบเส้นเลือดหัวใจและสมองอุดตันภายหลังได้
  • อาการปวดปลายประสาทภายหลังรอยโรคหายแล้ว บางรายอาจทำให้มีอาการอัมพาตบริเวณใบหน้าซีกที่ยังมีอาการ แต่พบไม่บ่อยนัก
  • อาการแทรกซ้อนทางตา ทำให้เกิดกระจกตาอักเสบ
  • การติดเชื้อแบคทีเรียที่แผล
  • ในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง อาจพบภาวะสมองอักเสบ ไขสันหลังอักเสบ ผื่นที่ผิวหนังกระจาย ปอดบวม
  • งูสวัดในผู้ป่วยโรคเอดส์ ผื่นจะมีอาการรุนแรงมากกว่าในคนปกติ

การรักษาโรคงูสวัด

  1. ให้ยาบรรเทาอาการปวดจากปลายประสาทอักเสบ ร่วมกับยาทาเพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน
  2. ยาต้านเชื้อไวรัส รับประทานภายใน 48 ชั่วโมง หลังจากผื่นขึ้น ซึ่งจะทำให้ผื่นหายเร็ว ลดอาการเจ็บปวดและลดจำนวนเชื้อ

วิธีป้องกัน ‘โรคงูสวัด’

การฉีดวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด เป็นวิธีที่ดีที่สุดในปัจจุบัน แนะนำให้ฉีดในผู้สูงอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 2-6 เดือน สามารถป้องกันการเกิดโรคได้ถึง 97% แม้ในผู้ป่วยที่เคยเป็นแล้ว แนะนำให้ฉีดวัคซีนได้หลังจากเป็นโรคไปแล้วอย่างน้อย 6 เดือน แต่ในผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง เปลี่ยนไต สามารถฉีดได้ ตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป

ฉีดวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด เป็นวิธีที่ดีที่สุดในปัจจุบัน แนะนำให้ฉีดในผู้สูงอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 2-6 เดือน สามารถป้องกันการเกิดโรคได้ถึง 97%

Share
ผู้ที่เขียนบทความ
พญ. สุวรรณา เจริญพุทธคุณ
DR. SUWANNA CHAROENPUTTAKUN, M.D
Dematologist, Thainakarin Hospital
ข้อมูลแพทย์