ช่วงปลายปีแบบนี้ นอกจากหลายคนจะเตรียมตัวก้าวเข้าสู่ปีใหม่แล้ว สำหรับกลุ่มนักเรียนชายจะเป็นช่วงเตรียมตัว เตรียมสภาพร่างกาย พร้อมความรู้เรื่องวิชาการต่างๆ เพื่อสมัครสอบทหารและตำรวจ ที่กำลังเริ่มเปิดรับสมัครช่วงต้นปี แต่ในกรณีที่เตรียมพร้อมเต็มที่ พอถึงขั้นตอนตรวจวัดสายตากลับต้องผิดหวัง เนื่องจากค่าสายตาไม่ผ่านเกณฑ์ หากไม่อยากผิดหวังด้วยปัญหานี้ การเตรียมสายตาให้พร้อมจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
แพทย์หญิงขนิษฐา ตันติสิริสมบูรณ์ จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านเลสิค ประจำศูนย์เลสิค โรงพยาบาลไทยนครินทร์ กล่าวถึงปัญหาสายตาในกลุ่มเด็ก-วัยรุ่นว่า “ปัญหาสายตาในกลุ่มเด็กหรือวัยรุ่นในปัจจุบัน พบได้มากขึ้น โดยการสอบทหารหรือตำรวจ เกณฑ์การตรวจความพร้อมของสายตาก็จะมีเรื่องค่าสายตา ตาบอดสี และอื่นๆ ขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์ของสถาบันนั้นๆ กำหนด ซึ่งภาวะสายตาที่ผิดปกติของน้องๆ ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้พลาดโอกาส ทั้งๆ ที่เตรียมตัวด้านวิชาการมาแล้วเป็นอย่างดี
“ก่อนอื่น อยากอธิบายเพิ่มเติมว่า ภาวะสายตาผิดปกติที่พบได้มากในกลุ่มอายุไม่เกิน 18 ปี คือ ภาวะสายตาสั้น และเอียง สาเหตุก็จะแตกต่างกัน สายตาสั้นก็จะเกิดจากกระบอกตายาวกว่าปกติ หรือกระจกตาโค้งมากกว่าปกติ โดยมีปัจจัยจากทั้งกรรมพันธุ์ พฤติกรรมการใช้สายตาที่ผิด เช่น การเล่นมือถือ หรือเกมจากคอมพิวเตอร์มากเกินไป
“ในส่วนของสายตาเอียง จะมีสาเหตุจากกระจกตาในแต่ละแกนมีความโค้งไม่เท่ากัน ทำให้จุดโฟกัสไม่รวมเป็นภาพเดียว จึงเกิดปัญหาสายตาเอียง โดยส่วนใหญ่ปัญหานี้ก็จะพบร่วมกับคนที่มีภาวะสายตาสั้นหรือยาว ทำให้เกิดปัญหาภาพซ้อน ภาพเป็นแสงกระจาย ต้องเพ่งตาเพื่อปรับโฟกัสให้ชัดเจน โดยจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้ปวดศีรษะ ปวดตา หรือตาล้าได้”
ภาวะสายตาผิดปกติ หมดโอกาสสอบทหาร?
“ไม่เสมอไปค่ะ แต่แค่ต้องรู้ตัวเอง และมาตรวจวัดสายตาตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อสามารถวางแผนแก้ไขสายตาได้ทันก่อนที่จะสมัครสอบ โดยหลักเกณฑ์ในการสอบคือต้องอ่านตัวเลขแถว 20/20 ได้ จึงจะสอบผ่าน และต้องตาไม่บอดสี ตรงนี้เป็นหลักเกณฑ์หลักๆ ซึ่งวิธีแก้ไขสายตาก็จะมีทั้งการทำเลสิค และ PRK (Photorefractive Keratectomy)
“หากพบว่ามีสายตาผิดปกติ และสามารถอ่านได้ชัดเมื่อใส่แว่น แสดงว่าสามารถแก้ไขสายตาให้ดีขึ้นได้ด้วยวิธีการทำเลสิค หรือ PRK โดยทั่วไป หากสอบตำรวจ สามารถทำแบบเลสิคได้ ซึ่งการมองเห็นจะกลับมาเป็นปกติค่อนข้างเร็ว แนะนำทำก่อนอย่างน้อย 1 เดือนก่อนสอบ
“แต่ในบางรายหากมีกระจกตาบาง อาจไม่สามารถทำเลสิคได้ ต้องทำเป็นวิธี PRK แทน โดยวิธีนี้จะเหมาะสำหรับน้องๆ ที่อยากสอบทหารด้วย เพราะสามารถสอบได้ทั้ง 4 เหล่า ซึ่ง PRK ควรจะทำก่อนสอบอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อให้แน่ใจว่าภาวะค่าสายตาจะกลับมาปกติ ดังนั้น หากรู้เป้าหมายของตัวเอง หรือผู้ปกครองอยากให้น้องลองสมัครสอบ ควรศึกษากำหนดการรับสมัครให้ละเอียด และพาน้องๆ มาตรวจเช็กค่าสายตาล่วงหน้า 3-6 เดือนดีที่สุดค่ะ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ช่วงใกล้สอบน้องๆ จะไม่ค่อยมีเวลา เนื่องจากต้องเตรียมความพร้อมในหลายๆ ด้าน ทั้งฝึกร่างกาย อ่านหนังสือ หากต้องแก้ไขสายตาจริงๆ ก็ควรต้องมาแต่เนิ่นๆ ตามระยะเวลาที่แนะนำ เช่น หากกำหนดสอบทหาร-ตำรวจในเดือนมีนาคม ควรพบแพทย์เพื่อปรึกษาและวางแผนในการแก้ไขสายตาตั้งแต่เดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายน เพื่อให้แผลหายดีและค่าสายตากลับมาเป็นปกติก่อนสอบ ที่สำคัญการสอบทหาร-ตำรวจ จะมีการสอบว่ายน้ำด้วย ระยะเวลาที่ปลอดภัยที่จะว่ายน้ำคือหลังทำเลสิคหรือ PRK คืออย่างน้อย 1 เดือนค่ะ”