คือ การเจ็บครรภ์ที่เกิดขึ้นเมื่อมีอายุครรภ์ตั้งแต่ 20 สัปดาห์ขึ้นไป แต่ยังไม่ถึง 37 สัปดาห์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ทารกคลอดออกมาก่อนกำหนด และเสี่ยงต่อการที่ทารกจะเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ ดังนั้นคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ควรมีความรู้เกี่ยวกับการคลอดก่อนกำหนด เพื่อป้องกันและดูแลให้ทารกคลอดออกมาอย่างปลอดภัย
สาเหตุของภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
ภาวะเจ็บครรภ์คลอดยังไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่อาจเป็นสาเหตุของการเจ็บครรภ์และคลอดก่อนกำหนด ดังนี้
1.การขาดสารอาหาร ขาดการเอาใจใส่ดูแลบำรุงครรภ์ น้ำหนักในระยะตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นน้อย และนอกจากนี้การขาดน้ำก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีการ กระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
2.การทำงานติดต่อกันนานๆ จนร่างกายอ่อนล้า มีการยกของหนักๆ ยืน เดิน หรือ นั่ง อยู่ในท่าใดท่าหนึ่งติดต่อกันนานหลายชั่วโมง
3.การมีเพศสัมพันธ์ในระยะตั้งครรภ์ หลัง 32 สัปดาห์
4.การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และได้รับสารเสพติด เช่น การสูบบุหรี่
5.ความเครียดทางด้านจิตใจอย่างรุนแรง และติดต่อกันเป็นเวลานาน
6.เคยมีประวัติการคลอดก่อนกำหนด หรือแท้งในระยะหลังของการตั้งครรภ์
7.มีภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ เช่น ปากมดลูกหลอมหรือสั้นผิดปกติ มีเนื้องอกในมดลูก ตั้งครรภ์แฝด ภาวะน้ำคร่ำมากผิดปกติ (ครรภ์แฝดน้ำ ) มีความผิดปกติของรก ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด เป็นต้น
8.มีความผิดปกติของทารกในครรภ์
9.มีการติดเชื้อในร่างกาย เช่น ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรืออาการช่องคลอดอักเสบ หรือมีไข้สูง
10.มีโรคแทรกซ้อน เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคโลหิตจาง โรคเบาหวาน เป็นต้น
11.ถูกกระทบกระเทือนบริเวณมดลูก เช่น ประสบอุบัติเหตุรถชน หกล้ม เป็นต้น
หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงจะดูแลตนเองอย่างไร
1. ควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง และควรนอนพักในช่วงเวลากลางวันด้วย และควรนอนในท่าตะแคง เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงมดลูกได้ดีขึ้น
2. ทำจิตใจให้สบาย ขจัดความเครียด ความวิตกกังวลให้มากที่สุด
3.ไม่ควรยืนหรือเดินนานๆ หรือทำงานติดต่อกันเป็นวลานาน
4. ไม่ควรออกกำลังหรือทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากๆ เช่น ยกของหนัก เดินทางไกล
5. ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วนทุกมื้อ ห้ามงดอาหารและควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว ไม่ควรดื่มชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมทั้งงดการสูบบุหรี่ หากมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน รับประทานอาหารไม่ได้ หรือมีอาการท้องเดิน ควรมาโรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือ
6.ไม่ควรกลั้นปัสสาวะ และภายหลังการถ่ายปัสสาวะและอุจจาระ ให้ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกให้สะอาด เพื่อป้องกันการเกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
7. ไม่กระตุ้นหัวนมหรือเต้านม ไม่ให้นวดเต้านมหรือคลึงหัวนม จนกระทั่งมีอายุครรภ์ครบ 37 สัปดาห์
8. งดร่วมเพศหลังอายุครรภ์ 32 สัปดาห์
9.ถ้ามีอาการตกขาวผิดปกติ เช่น คัน หรือมีกลิ่นผิดปกติ ควรรีบมาพบแพทย์
10.สังเกตอาการเตือนของการเจ็บครรภ์ โดยการประเมินการหดรัดตัวของมดลูกทุกวัน วันละ 1-2 ครั้ง
11. ควรมาตรวจตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
อาการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
1. มดลูกหดรัดตัวบ่อย อาจมีหรือไม่มีอาการเจ็บครรภ์ร่วมด้วย ประมาณ 5-6 ครั้งต่อชั่วโมง
2. มีอาการปวดท้องหรือปวดเหนือหัวเหน่า ลักษณะปวดเป็นพักๆ คล้ายปวดประจำเดือน เป็นอาการเตือนที่สำคัญ
3. ปวดหลังส่วนล่างบริเวณบั้นเอว ลักษณะปวดตื้อๆเป็นพักๆ ร้าวลงมาหน้าขา
4. ปวดถ่วงในช่องคลอด ทวารหนักและฝีเย็บเป็นพักๆ
5. มีน้ำใสๆ ออกทางช่องคลอด อาจมีเลือดปนออกมาด้วยเป็นสีแดงจางๆ
6. ถุงน้ำคร่ำแตก มีน้ำใสๆไหลออกมาจำนวนมาก
7. มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด ลักษณะเหนียว มีเลือดปนเป็นสีแดงจางๆ
เมื่อมีอาการเตือนของการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด ควรทำอย่างไร
1. หากมีน้ำใสๆ มีน้ำปนเลือดเป็นสีชมพูหรือสีน้ำตาล หรือมีมูกเลือดออกทางช่องคลอด ให้รีบมาโรงพยาบาลทันที
2.พบว่ามีการหดรัดตัวถึง 5-6 ครั้งขึ้นไปติดต่อกัน 1-2 ชม. ให้รีบมาโรงพยาบาลทันที
3.ปัสสาวะออกให้หมดและนอนในท่าตะแคง
4. ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก โดยการเปิดเสื้อผ้าบริเวณท้อง วางฝ่ามือไว้บริเวณยอดมดลูก ใช้ส่วนปลายนิ้วสัมผัสกับผิวหนังหน้าท้อง และจับเวลาเพื่อนับจำนวนครั้งที่มดลูกมีอาการหดรัดตัว ภายใน 1 ชั่วโมง และจับเวลาที่มดลูกหดรัดตัวนานในแต่ละครั้ง
ที่สำคัญหากคุณแม่รู้สึกมีอาการลูกดิ้นน้อยผิดปกติให้รีบมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและวินิจฉัยอาการกับแพทย์โดยตรงเพื่อลดความเสี่ยงภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดได้
บทความโดย
พญ.อัจฉรา เชยประเสริฐ
สูติแพทย์ที่ปรึกษา โรงพยาบาลไทยนครินทร์