อาการปวดหลังเรื้อรัง เป็น ๆ หาย ๆ ไม่ว่าจะเกิดจากการทำงานเป็นเวลานาน ก้มหน้าเล่นสมาร์ทโฟน ยกของหนัก แม้จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม กินยาแก้ปวด ทำกายภาพแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าอาการจะดีขึ้น ดังนั้นควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัยเพื่อค้นหาสาเหตุอย่างละเอียด ด้วยการทำ MRI กระดูกสันหลัง หรือการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการตรวจวินิจฉัยอาการปวดหลังได้อย่างตรงจุด ปลอดภัย แม่นยำ ไม่เจ็บ และทราบผลได้ในเวลาอันรวดเร็ว
การตรวจด้วยเครื่อง MRI 3 Tesla คืออะไร?
การตรวจวินิจฉัยโรคด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือการตรวจด้วยเครื่อง MRI (Magnetic Resonance Imaging) คือ เทคนิคการสร้างภาพทางรังสีวิทยา เพื่อการตรวจวินิจฉัยโรค และติดตามผลการตรวจรักษา โดยเครื่องที่ใช้ตรวจมีการปล่อยสนามแม่เหล็กที่มีระดับความเข้มของสนามแม่เหล็ก 3 เทสลา (3.0 Tesla) และคลื่นวิทยุเข้มข้นสูงออกมา ทำให้เห็นภาพเหมือนจริงของอวัยวะภายในต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาเพื่อใช้สำหรับการวินิจฉัยอาการผิดปกติได้อย่างมีคุณภาพ มีรายละเอียดและความคมชัดสูง โดยเฉพาะสมอง หัวใจ กระดูก กล้ามเนื้อ และส่วนที่เป็นมะเร็ง ทำให้แพทย์สามารถตรวจวินิจฉัยความผิดปกติในร่างกายได้อย่างแม่นยำ ซึ่งการตรวจด้วยเครื่อง MRI 3 Tesla นี้ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดใด ๆ แก่ร่างกาย และไม่มีอันตรายจากรังสีตกค้าง
การตรวจกระดูกสันหลังด้วยเครื่อง MRI 3 Tesla
เครื่อง MRI 3 Tesla สามารถใช้ตรวจโรคที่มีความเกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลังได้ค่อนข้างหลากหลาย เช่น โรคกระดูกพรุน โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา โดยแพทย์จะทำการซักประวัติและสั่งตรวจด้วยเครื่อง MRI เพิ่มเติม ซึ่งช่วยในการตรวจวินิจฉัยอาการปวดหลังที่ต้นเหตุได้
อาการปวดแบบไหนที่ควรตรวจ MRI กระดูกสันหลัง
- ปวดคอ รุนแรง
- ปวดหลังเรื้อรังนานหลายสัปดาห์
- ปวดหลังร้าวลงขา ชาลงแขนหรือลำตัว
- ขาลีบ แขนหรือขาอ่อนแรง
- แขนขากระตุก ควบคุมไม่ได้
- สมรรถภาพทางเพศลดลง
- ควบคุมปัสสาวะ อุจจาระไม่ได้
ข้อดีของการ MRI กระดูกสันหลังด้วยเครื่อง MRI 3 Tesla
- สามารถตรวจพบความผิดปกติได้อย่างรวดเร็วและบอกขอบเขตของโรคได้ทำให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาโรคต่อไปได้
- ให้ภาพละเอียด คมชัด แยกความแตกต่างระหว่างเนื้อเยื่อได้อย่างชัดเจน ทำให้มีความถูกต้องแม่นยำในการวินิจฉัยโรคมากยิ่งขึ้น
- ไม่ต้องเสี่ยงกับการฉีดสารทึบรังสีโดยไม่จำเป็น เพราะการตรวจด้วยเครื่อง MRI 3 Tesla ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อเนื้อเยื่อและไม่ใช้คลื่นรังสีเอกซเรย์ที่เป็นอันตรายแก่ร่างกาย
- เป็นการตรวจที่ไม่ใช้รังสีเอกซ์จึงใช้ตรวจได้อย่างปลอดภัยแม้ในผู้ป่วยเด็กหรือผู้ป่วยตั้งครรภ์
ก่อนตรวจด้วยเครื่อง MRI 3 Tesla ต้องเตรียมตัวอย่างไร
- ไม่ต้องงดน้ำ และอาหารก่อนตรวจ ยกเว้น การตรวจในช่องท้อง
- วันที่มารับการตรวจ ควรงดใช้เครื่องสำอางบางชนิดก่อนตรวจ เช่น อายแชโดว์ มาสคาร่า เนื่องจากมีส่วนผสมของโลหะทำให้เกิดเป็นสิ่งแปลกปลอมในภาพได้ รวมถึงต้องนำโลหะต่าง ๆ ออกจากตัว เช่น ต่างหู เครื่องประดับ เป็นต้น ในกรณีสำหรับผู้ที่มีการจัดฟัน การทำ MRI ตรวจในช่วงบริเวณ สมองถึงกระดูกคอควรต้องถอดเอาเหล็กดัดฟันออกก่อน เพราะจะมีผลต่อความชัดของภาพ
- วันตรวจควรมีญาติมาด้วยอย่างน้อย 1 คน
- ผู้ป่วยและครอบครัวควรอ่านเอกสารแนะนำ “การปฏิบัติตัวเมื่อเข้ารับการตรวจโดยเครื่อง MRI” และซักถามเจ้าหน้าที่แผนกรังสีวินิจฉัยให้เข้าใจ
ขั้นตอนในการตรวจด้วยเครื่อง MRI 3 Tesla
ผู้ป่วยต้องเข้าไปนอนในเครื่อง ลักษณะคล้ายอุโมงค์ และจะมีการใส่อุปกรณ์รับสัญญาณภาพ โดยมีลักษณะที่แตกต่างไปขึ้นอยู่กับอวัยวะที่ต้องการตรวจ โดยผู้ป่วยต้องนอนในอุโมงค์อย่างน้อย 30 – 60 นาที ขึ้นอยู่กับอวัยวะที่ต้องการตรวจ การตรวจจะแบ่งเป็นชุดๆ ในแต่ละชุดใช้เวลานาน 3 – 5 นาที
ข้อห้ามและข้อควรระวัง ก่อนตรวจ MRI
เนื่องจากเครื่องตรวจ MRI มีสนามแม่เหล็กแรงสูงตลอดเวลา ทำให้มีผลต่อการทำงาน และการขยับของอุปกรณ์ที่มีส่วนผสมของโลหะ ทั้งที่อยู่ในร่างกาย หรือที่ติดมากับผู้ป่วย ดังนั้นผู้ป่วยควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทราบ ทั้งแพทย์ พยาบาลและผู้ดูแล ในกรณีต่อไปนี้
- ผู้ป่วยรับการผ่าตัดใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจบางรุ่น (Cardiac pacemaker)
- ผู้ป่วยเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียม ชนิดโลหะ
- ผู้ป่วยผ่าตัดใส่คลิปหนีบหลอดเลือดโป่งพอง (Aneurysm clips)
- ผู้ป่วยผ่าตัดใส่เครื่องช่วยฟังที่ฝังในกระดูกหู
- ผู้ป่วยมีโลหะต่างๆ อยู่ในร่างกาย เช่น ข้อเทียมต่างๆ โลหะดามกระดูก กระสุนปืน
- มีสิ่งแปลกปลอมที่เป็นโลหะติดอยู่ที่ตา
- ตั้งครรภ์โดยเฉพาะในระยะ 3 เดือนแรก
- กลัวที่แคบ (Claustrophobia) หรือไม่สามารถนอนราบในอุโมงค์ตรวจได้
การปฏิบัติตัว หลังรับการตรวจ MRI
- สังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น กรณีที่ได้รับการฉีดสารเพิ่มความแตกต่างของเนื้อเยื่อเข้าทางหลอดเลือดดำ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีผื่นขึ้น ควรมาพบแพทย์
- มาตรวจและฟังผลการตรวจตามวันเวลาที่นัดหมาย