Shopping Cart

No products in the cart.

‘ปวดข้อ เข่าเสื่อม’ รักษาได้ ด้วยการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น PRP

ข้อเข่าเสื่อม เกิดขึ้นได้จากการใช้งานข้อเข่ามากเกินไป ทำให้กระดูกอ่อนบริเวณข้อเข่าเสียดสีกันจนเกิดการเสื่อมและสึกกร่อนของกระดูกอ่อนผิวข้อ จนมีอาการปวดเข่า มักเกิดขึ้นจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่มีการใช้งานข้อเข่ามากเกินไป และอายุที่เพิ่มมากขึ้น มีผลทำให้เกิดความเสื่อมของข้อเข่า

  • ปรับพฤติกรรมและการออกกำลังกาย
  • รักษาด้วยการใช้ยา
  • ทำกายภาพบำบัด
  • รักษาทางชีวภาพ หรือ Biological Therapy
  • ผ่าตัดโดยวิธีส่องกล้อง (Arthroscopic Surgery)
  • ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม (Arthroplasty)

ฉีดเกล็ดเลือด PRP เป็นการรักษาด้วยพลาสมาเกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นสูง โดยนำเลือดของคนไข้เองมาปั่นเพื่อแยกเกล็ดเลือดและพลาสมา หลังจากนั้นแพทย์จะนำเกล็ดเลือดที่ได้จากการปั่นที่มีความเข้มข้นสูง ฉีดกลับเข้าไปในบริเวณที่บาดเจ็บ เพื่อรักษาอาการเจ็บปวดและเร่งการฟื้นฟูสภาพร่างกาย

  • ผู้ป่วยที่มีอาการบาดเจ็บของหมอนรองกระดูก ข้อเข่า ข้อเข่าอักเสบ
  • มีอาการบาดเจ็บและความเสื่อมของเส้นเอ็น เช่น Tennis elbow และ Golfer elbow
  • ผู้ป่วยที่เคยรักษาด้วยวิธีกายภาพบำบัด รับประทานยา หรือฉีดสเตียรอยด์แล้วไม่ดีขึ้น
นพ.อนุชิต เวชชัยชีวะ ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลไทยนครินทร์

มีส่วนช่วยในการบำบัดข้อเข่าเสื่อม ใน PRP หรือเกล็ดเลือดหนาแน่น จะมีองค์ประกอบของ Growth Factor ที่เป็นปัจจัยที่ช่วยเร่งกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อโดยธรรมชาติของร่างกายอยู่ในปริมาณที่สูงกว่าปกติมาก ทำให้อัตราการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอทำได้เร็วขึ้น

บางรายอาจมีอาการปวดบวมอักเสบหลังฉีด และหายเองได้ภายใน 3 วัน

หลังฉีด PRP บริเวณที่ทำการฉีดอาจมีอาการปวดตึงในช่วง 48 ชั่วโมงแรก แนะนำให้ประคบเย็นเพื่อลดอาการปวด หากปวดมากสามารถรับประทานยาพาราเซตามอล ห้ามรับประทานยาในกลุ่ม NSAIDs ยาแก้อักเสบ สเตียรอยด์เด็ดขาด เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้นลดลง นอกจากนี้หากปวด บวม แดง ร้อนบริเวณที่ฉีด แนะนำให้กลับมาพบแพทย์ทันที

Share
ผู้ที่เขียนบทความ
นพ. อนุชิต เวชชัยชีวะ
นพ. อนุชิต เวชชัยชีวะ
ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลไทยนครินทร์
ข้อมูลแพทย์