Shopping Cart

No products in the cart.

เปิดเทอม Onsite เสริมภูมิ ‘วัยเรียน’ ควรรับวัคซีนอะไรบ้าง

จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงปีที่ผ่านมา เพื่อป้องกันการติดเชื้อทำให้เด็กๆ ต้องเรียนออนไลน์แทนการไปเรียนที่โรงเรียน  ปัจจุบันเริ่มควบคุมสถานการณ์โควิดได้ดีขึ้น จึงได้เริ่มมีมาตรการผ่อนคลาย หลายจังหวัดได้เริ่มเปิดเรียนแบบ Onsite ที่โรงเรียนแล้ว นอกจากการที่ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้และปฏิบัติตัวตามหลักการป้องกันการติดเชื้อโควิด เช่น การสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ออกนอกบ้าน ล้างมืออย่างถูกวิธีอย่างสม่ำเสมอ และ รักษาระยะห่างแล้ว สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ควรเตรียมพร้อมก่อนไปโรงเรียน คือ การรับวัคซีนตามเกณฑ์มาตรฐานให้ครบถ้วนตามช่วงอายุที่แนะนำของสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย นอกจากนั้นควรพิจารณารับวัคซีนเสริมต่างๆ เพิ่มเติม เพื่อลดการเกิดโรคอื่นๆ ที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีนและลดโอกาสเกิดโรคติดเชื้อร่วม (Co-Infection) กับโรคโควิด-19 ได้แก่

 

วัคซีนจำเป็นสำหรับเด็ก

  • วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
    ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซ่า (Influenza Virus) เชื้อสามารถแพร่กระจายจากผู้ที่ติดเชื้อไปยังผู้อื่นได้ผ่านทางละอองฝอยจากการไอ จาม ทําให้มีไข้ และมีอาการทางระบบทางเดินหายใจ แยกยากจากการติดเชื้อโควิด 19  ในบางรายจะมีอาการรุนแรงและจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาภายในโรงพยาบาล ดังนั้นการป้องกันโรคด้วยการฉีดวัคซีนจึงมีความสำคัญ วัคซีนนี้สามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป  สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 9 ปี ในปีแรกควรได้รับ 2 เข็ม โดยเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 1 เดือน และฉีดซ้ำทุก 1 ปี เพื่อป้องกันโรคอย่างต่อเนื่อง
  • วัคซีนป้องกันไอพีดี (IPD, Invasive Pneumococcal Disease)
    คือโรคติดเชื้อแบคทีเรียชนิดรุนแรง ที่มีชื่อว่า นิวโมคอคคัส สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และปอดอักเสบรุนแรงได้ โดยอาจรับเชื้อจากการสัมผัสละอองการไอและจาม ทำให้มีอาการไข้สูง และมีอาการทางระบบหายใจเช่นเดียวกันกับโรคโควิด นอกจากนั้นโรคไอพีดียังอาจพบเป็นภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยโรคโควิด-19ได้ ทำให้ยิ่งซ้ำเติมความรุนแรงของโรคโควิด 19 มากขึ้นด้วย  โดยวัคซีนนี้แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไอพีดีเข็มแรกตั้งแต่อายุ 2 เดือนขึ้นไป
  • วัคซีนป้องกันโควิด 19
    ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (Coronaviruses ) ทำให้เกิดการระบาดอย่างมากทั่วโลก ติดต่อได้ค่อนข้างง่ายทางสิ่งคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก น้ำลายจากการไอจาม ในปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในประเทศไทยที่มีข้อมูลรองรับถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย ในเด็กอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป เป็นวัคซีนชนิด mRNA คือ วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของ Pfizer-BioNTech  ข้อบ่งชี้คือ สำหรับอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ป่วยมีโรคเรื้อรังในเด็กที่เป็นกลุ่มเสี่ยงจะทำให้เกิดโรคโควิด 19 รุนแรง  ควรได้รับวัคซีนดังกล่าว

ปกป้องลูกจากโรค

(สำหรับวัคซีนชนิดอื่นที่มีในประเทศไทยในปัจจุบัน เช่น วัคซีน sinovac, sinopharm และ Moderna ยังมีข้อมูลในเด็กจำกัด โดยยังเป็นการศึกษาวิจัย และยังไม่ได้รับการรับรองการใช้จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสำหรับอายุต่ำกว่า18 ปี จึงยังไม่ได้แนะนำให้ใช้ในเด็กในขณะนี้ รวมถึงกลุ่มเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี จนกว่าจะมีข้อมูลเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยเพิ่มเติมในอนาคต) ซึ่งก็จะเห็นว่า โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไอพีดี และโรคโควิด 19 มีความเกี่ยวข้องกัน คือ สามารถทำให้เกิดโรคปอดบวมได้ ยิ่งถ้าพบว่าเกิดร่วมกันก็จะยิ่งความรุนแรงของโรคให้มากยิ่งขึ้นได้ ดังนั้นการป้องกันด้วยวัคซีนก็จะทำให้ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและลดความรุนแรงของโรคลงได้

Share
ผู้ที่เขียนบทความ
พญ. สุภาวรรณ ชั้นประดับ
พญ. สุภาวรรณ ชั้นประดับ
กุมารแพทย์ และกุมารแพทย์สาขาโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลไทยนครินทร์
ข้อมูลแพทย์