เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากจะมีความชราของผิวพรรณ หลายๆ คนคงอยากรู้ว่ามีวิธีการใดบ้างที่จะช่วยลดความชราหรือความเสื่อมของผิวเราได้บ้าง เรามาทำความรู้จักความเสื่อมของผิวและวิธีดูแลกันดีกว่าค่ะ
สาเหตุของความเสื่อมของผิว
สาเหตุของความเสื่อมของผิว หรือภาวะ Skin Aging เกิดได้จากสาเหตุทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอก ปัจจัยภายในเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาตามเวลา ตามอายุของเราที่มากขึ้นทุกๆ ปี หรือตามกรรม-พันธุ์ และยังมีผลจากฮอร์โมนที่ลดลง โดยที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ส่วนความเสื่อมของผิวจากปัจจัยภายนอก เกิดเนื่องมาจากสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญก็คือรังสียูวี, การสูบบุหรี่, อาหาร, มลภาวะทางอากาศต่างๆ ซึ่งเราสามารถป้องกันปัจจัยเหล่านี้ไม่ให้มาทำร้ายผิวของเราได้
เมื่อผิวเสื่อมหรือผิวเกิดความชราแล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง
หลักๆ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของชั้นหนังแท้ ความแข็งแรง ความยืดหยุ่นของผิวจะลดลง เนื่องจากเซลล์ที่ชื่อ Fibroblast ที่มีหน้าที่ในการสร้างคอลลาเจนทำงานลดลง ทำให้คอลลาเจนที่ชั้นผิวของเราลดลง เห็นเป็นริ้วรอยร่องลึก มีการลดลงของ Elastin ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น มีการลดลงของ Hyaluronic Acid ส่งผลให้ผิวขาดความชุ่มชื่น
มาทำความรู้จักอนุมูลอิสระตัวการร้ายทำลายผิว
อนุมูลอิสระ เป็นโมเลกุลที่มีอิเล็คตรอนที่ไม่มีคู่อยุ่ ซึ่งสารอนุมูลอิสระเหล่านี้เกิดมาจากกระบวนการการเผาผลาญของเซลล์ รวมถึงจากรังสียูวี โดยปกติแล้วผิวเราจะมีสารที่มีฤทธิเป็น Antioxidant หรือตัวต้านอนุมูลอิสระอยู่ แต่ Antioxidant เหล่านี้จะลดลงเมื่อเราอายุมากขึ้น อนุมูลอิสระเหล่านี้จะทำให้เกิดความเสื่อมของเซลล์ในที่สุด ที่ผิวหนังของเรา เมื่ออนุมูลอิสระมาทำปฏิกิริยากับคอลลาเจนก็จะเกิดความเสื่อมของเส้นใยคอลลาเจน เกิดเป็นความเสื่อมของผิวและริ้วรอยในที่สุด
ถ้าไม่อยากมีผิวแก่ต้องป้องกันรังสียูวี ถึงอยู่ในร่มก็โดนรังสียูวีได้!!
รังสียูวีที่ผ่านมาถึงผิวโลกของเราประกอบด้วย รังสียูวีเอ และยูวีบี รังสีเหล่านี้ทำร้ายผิวของเราได้โดยที่มันสามารถทะลุผ่านลงไปที่ชั้นหนังแท้ของเรา ทำให้เกิดการอักเสบและกระตุ้นการสร้างอนุมูลอิสระมากมาย ส่งผลทำให้การสร้างคอลลาเจนที่ผิวลดลงและยังทำลายคอลลาเจนของเราอีกด้วย
การป้องกันรังสียูวี ที่สำคัญที่สุดคือ การทากันแดดอย่างเหมาะสมเป็นประจำทุกวัน เพราะถึงแม้ทำงานในที่ร่ม รังสียูวีเอก็สามารถทะลุผ่านกระจกมาถึงเราได้ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วง 10.00-16.00 น. ใส่เสื้อผ้าที่ป้องกันแสงแดดได้ ใส่หมวกปีกกว้าง กางร่ม สวมแว่นกันแดด
มาทำความรู้จักวิตามินเอชนิดทา พระเอกขี่ม้าขาว
วิตามินเอชนิดทาเป็นการรักษาหลักช่วยทั้งป้องกันการเกิดริ้วรอยหรือผิวเสื่อมจากแสงแดด แต่ถึงมีริ้วรอยแล้วก็ยังช่วยรักษา ทำให้ริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าของเราดีขึ้น และยังทำให้สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอดีขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตามวิตามินเอแบบทาก็มีผลข้างเคียงที่พบบ่อยคือ เกิดการระคายเคืองได้ ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ เพื่อผลที่ดียิ่งขึ้นในการรักษา
มาทำความรู้จักวิตามินต้านอนุมูลอิสระ
วิตามินที่ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระที่เป็นตัวทำร้ายเซลล์ผิวของเรา ที่ได้รับความนิยมกันมากก็คือ วิตามินซีชนิดทา เป็นวิตามินที่สำคัญในกระบวนการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นผิว แถมยังมีฤทธิ์ลดการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวเราจากแสงแดด แต่วิตามินชนิดนี้มีหลากหลายรูปแบบและความเข้มข้น จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกใช้ให้เหมาะกับผิวหน้าของแต่ละคน
การรักษาอื่นๆ ที่ช่วยลดริ้วรอยได้
การใช้สารบางตัวในการผลัดเซลล์ผิว หลายคนคงรู้จักการใช้กรดผลไม้ที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว แต่ความเป็นจริง มีสารอีกหลายชนิดที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวของเรา โดยแพทย์จะประเมินลักษณะผิวหน้าและปัญหาของแต่ละคนก่อน เพื่อพิจารณาใช้ตัวผลัดเซลล์ผิวที่เหมาะสมและเลือกความเข้มข้นให้เหมาะกับปัญหาของแต่ละคน โดยตัวผลัดเซลล์ผิวบางตัวจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นหนังแท้ของเรา ช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิว จึงช่วยในการลดริ้วรอยและปรับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ สารบางตัวยังมีฤทธิ์ช่วยในการรักษาสิวอีกด้วย
การทำเลเซอร์ที่ช่วยในเรื่องริ้วรอย
มีอยู่หลายตัวในปัจจุบัน เช่น การทำ Fine Scan
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ปล่อยพลังงานเป็นจุดเล็กๆ ไปที่ชั้นผิว
เลเซอร์ตัวนี้ไม่ได้ช่วยแค่ริ้วรอยอย่างเดียว การกระตุ้น
คอลลาเจนใหม่ จากการทำเลเซอร์ในแต่ละครั้ง
จะช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้น หลุมสิว
รวมทั้งแผลเป็นดีขึ้นด้วย
